InvestmentTalk – เทคนิคลงทุนในหุ้น

แชร์บทความนี้

ในระยะหลัง ผมได้รับคำถามจากนักลงทุนไทย ผ่านทาง twitter เกี่ยวกับเรื่อการลงทุนในหุ้นบ่อยครั้ง ซึ่งคำถามโดยส่วนใหญ่ คือ คิดว่าหุ้นวันนี้จะขึ้นหรือจะลง, หุ้นตอนนี้ซื้อได้รึยัง, SET Index ที่ระดับนี้ควรขายทำกำไรหรือยัง เป็นต้น วันนี้จึงอยากจะมาขอแลกเปลี่ยน แนวความคิดในการลงทุนในหุ้นแบบให้กับผู้อ่านครับ ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนว่าข้อมูลที่นำเสนอเป็นเพียงแนวคิดส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้น

ควรเริ่มลงทุนในหุ้นตอนไหนดี ?
ผมคิดว่าหากเรามีเงินออม และมีช่วงระยะเวลาการลงทุนที่ยาว เช่น มากกว่า 1 – 3 ปีขึ้นไป เราควรมีการจัดสรรเงินบางส่วนไว้ในหุ้นครับ ไม่ต้องรอว่าจะซื้อวันไหน ซื้อวันนี้ได้เลยครับ เพราะในระยะยาวนั้นผลตอบแทนการลงทุนในหุ้นโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าผลตอบแทนจากการฝากเงิน, หรือการลงทุนในตราสารหนี้ , อสังหาริมทรัพย์ ซึ่งผลตอบแทนที่สูงกว่านั้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยง หรือความผันผวนที่สูงขึ้นไปด้วย สำหรับพอร์ตการลงทุนส่วนตัวของผมจะลงทุนส่วนใหญ่ในหุ้น ผ่านกองทุนหุ้น ซึ่งผมตั้ง target return ระยะยาวที่ปีละประมาณ 10 – 15% และมักจะไม่กังวลกับความผันผวนที่เกิดขึ้นในระยะสั้นครับ

ควรซื้อหุ้นเท่าไหร่ดี ?
เรื่องนี้ต้องศึกษาให้ดีครับว่าตัวคุณเองเหมาะที่จะลงทุนหุ้นเป็นสัดส่วนเท่าไหร่ของเงินออมทั้งหมดของคุณ ต้องเข้าใจระดับความเสี่ยงที่คุณยอมรับได้ และเป้าหมายทางการเงินระยะยาวของตัวเองให้ถ่องแท้ ไม่ใช่ว่าทุกคนเหมาะจะทำเหมือนผม ที่จัดสรรเงินส่วนใหญ่ไว้ในการลงทุนหุ้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการลงทุน, ระดับความทนความเสี่ยง (ที่บางครั้งตัวเราเองก็ยังไม่รู้เลยว่าทนความเสี่ยงได้แค่ไหน) หากคุณมีเวลาผมแนะนำให้ลองเข้าฟังสัมมนา “ลงทุนอย่างไรให้ได้ 100 ล้าน (อย่างง่าย ๆ)” ของบลจ. อยุธยา ครับ สัมมนานี้จัดขึ้นเพื่อให้นักลงทุนได้จัดพอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินของแต่ละคน และมีเคล็ดลับในการลงทุนที่ดีอีกหลายอย่าง อ่านรายละเอียดได้ที่ http://www.ayfunds.com

ซื้อหุ้นตอนไหนดี ?
ส่วนตัว ผมชอบซื้อหุ้นตอนแดง (หุ้นตก) ขายหุ้นตอนเขียว (หุ้นขึ้น) ผมชอบซื้อหุ้นเวลาหุ้นลง ยิ่งลงยิ่งซื้อครับ โดยเฉพาะตอนที่ทุกคนรู้สึกกลัว, มีแต่แรงขายไม่มีแรงซื้อ, Volume ตลาดต่ำ ๆ และผมชอบขายหุ้นเวลาที่มีแต่ข่าวดี ๆ, หุ้นขึ้นมามาก ๆ, P/E ตลาดเริ่มแพงกว่าค่าเฉลี่ยในอดีต, Volume เยอะ ๆ อันนี้ยิ่งขึ้นยิ่งขายครับ ผมมีเทคนิคส่วนตัวที่ใช้ในการปรับพอร์ตครับ อ่านบทความเรื่อง “Rebalancing – เทคนิคซื้อถูก ขายแพง”

เทคนิคเลือกซื้อหุ้นรายตัวด้วย Mosaic Theory
ผมชอบวิธีการตามหลักของ Mosaic Theory ครับ (ท่านที่สอบ CFA หรือ CISA จะคุ้นเคยกับทฤษฎีนี้) ซึ่งคือการรวบรวมข้อมูลทั้งที่เปิดเผยต่อสาธารณะ และข้อมูลที่ยังไม่เป็นสาธารณะแต่ไม่ใช่ข้อมูลภายในองค์กร (non-material non-public information) ห้ามใช้ข้อมูลภายในที่เป็นความลับ (Inside Information) ไม่งั้นอาจจะได้ไปกินข้าวแดงในตะรางนะครับ เคล็ดลับคือต้องขยันหาข้อมูลให้ได้เยอะ ๆ สังเกตจากทุกสิ่งอย่างรอบตัว จากนั้นก็จำแนกและวิเคราะห์ข้อมูลที่มีอยู่เพื่อหา “ปัจจัย” ที่คิดว่ามีนัยสำคัญต่อผลประกอบการบริษัทและราคาหุ้น

เทคนิคคือ การดูว่าปัจจัยที่คุณคิดว่าสำคัญนั้น ตลาดได้ “รับรู้” ไปแล้วหรือยัง วิธีการตรวจสอบ คือ อ่านจากหนังสือพิมพ์ หรือบทวิเคราะห์ (Research) ครับ หากปัจจัยที่ว่ามีลงในหนังสือพิมพ์ หรือบทวิเคราะห์ไปแล้ว โดยมากราคาหุ้นก็จะปรับตัวตามปัจจัยนั้น ๆ ไปแล้ว ปัจจัยที่วิเคราะห์หามาได้ก็จะไม่มีประโยชน์มากนัก แต่ถ้ายังไม่เป็นปัจจัยที่รับรู้ในวงกว้างก็จะเป็นโอกาสที่ดีในการที่จะใช้ปัจจัยนั้นในการตัดสินใจซื้อ หรือขายหุ้น โดยสรุปก็คือ ถ้ายิ่งรู้มากกว่าคนอื่น ก็ยิ่งได้เปรียบครับ ถ้าคุณอยากจะเจอหุ้น Home Run อย่างที่ผมเล่า ก็ต้องขยันทำการบ้านให้เยอะ ๆ ครับ หรือไม่อย่างนั้นก็คงต้องใช้บริการของผู้จัดการกองทุน ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมครับ

Facebook Comments

แชร์บทความนี้
เจษฎา สุขทิศ, CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FINNOMENA & นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย คุณเจษฎา เคยปฏิบัติงานในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล และเคยร่วมงานเป็นผู้จัดการกองทุนกับกลุ่ม เจพี มอร์แกน, ไทยพาณิชย์ และยูโอบี นอกจากนี้ ในปัจจุบัน คุณเจษฎา รับหน้าที่เป็นวิทยากรด้านการเงิน และฟินเทค ให้กับภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ คุณเจษฎา เคยได้รับรางวัลนักเศรษฐศาสตร์ดาวรุ่งจากสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์, รางวัล Most Astute Investor จากนิตยสาร The Asset และรางวัล Morningstar Fund Award
Posts created 106

Related Posts

Begin typing your search term above and press enter to search. Press ESC to cancel.

Back To Top