InvestmentTalk – แบ่งเงิน ไปซื้อ “ทอง”

แชร์บทความนี้

ผมได้มีโอกาสเข้าฟังสัมมนา “The Strategic Investment Case for Gold” ที่จัดโดย World Gold Council (http://www.gold.org/) จึงขอนำความรู้ที่ได้รับ มาวิเคราห์ให้ท่านผู้อ่านได้ลองพิจารณาดูครับ
ปัจจุบัน ทองคำที่ขุดขึ้นมาบนผิวโลกมีจำนวน 163,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ สมมติเราเอาทองทั้งหมดในโลกมากองรวมกันจะได้ขนาดเท่ากับตึกแถวประมาณ 3 – 4 ห้อง ซึ่งก็ถือว่าไม่ได้มากเท่าไรนัก โดยจากทองคำทั้งหมดที่มี ส่วนใหญ่นำไปใช้งานใน 4 ประเภท ดังนี้


51% ใช้เป็นเครื่องประดับ
17% ถือโดยธนาคารกลางเพื่อใช้เป็นทุนสำรองในการพิมพ์เงินตรา
16% เป็นการลงทุนในรูปต่าง ๆ เช่น กองทุน ETF, ทองคำแท่ง, เหรียญทอง เป็นต้น
12% เป็นทองคำที่ใช้ในอุตสาหกรรม เช่น อุตสาหกรรม Telecom

แนวโน้มที่ดีของทองคำ

จาก ที่ได้รับฟังความรู้ในเรื่องของตลาดทอง ทั้งในเรื่องของอุปสงค์ และอุปทาน โดยละเอียด ประเด็นที่ผมเห็นว่ามีนัยสำคัญต่อทิศทางราคาทองคำคือโครงสร้างความต้องการของทองที่เปลี่ยนไปอย่างชัดเจนในปี 2009 นี้

หลายท่านอาจมองว่าใน ภาวะทีเศรษฐกิจชะลอตัว ความต้องการทองคำเพื่อใช้เป็นเครื่องประดับ และใช้ในอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นตลาดหลักของทองคำน่าจะชะลอตัวตาม ซึ่ง “จริง” ครับ โดยในปี 2009 ความต้องการดังกล่าวปรับตัวลดลงอย่าชัดเจน อย่างไรก็ตามความต้องการทองคำเพื่อการลงทุนกลับปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงระยะ 1 ปีที่ผ่านมา เช่น ในไตรมาส 1 / 2552 ที่ผ่านมาผู้ซื้อทองคำหลักกลายเป็นผู้ซื้อเพื่อการลงทุนสูงถึง 59% ขณะที่ผู้ซื้อเพื่อเป็นเครื่องประดับ และเพื่อการอุตสาหกรรมปรับลดลงเหลือ 33% และ 8% ตามลำดับ

5 เหตุผลสนับสนุนราคาทองคำ

1. ธรรมชาติที่เป็น Safe-haven สำหรับการลงทุน เช่น ในปี 2008 ที่ผ่านมาที่ราคาของหุ้น, ที่ดิน, สินค้าโภคภัณฑ์, น้ำมันปรับตัวลดลงอย่างมาก ขณะที่ราคาทองคำในปี 2008 ปรับเพิ่มขึ้นจากบาทละ 13,600 บาท เป็น 14,400 บาท คิดเป็น 10.6% และในปี 2009 ราคาทองคำก็ยังคงมีแนวโน้มเป็นขาขึ้น

2. ด้วยผลตอบแทนที่ค่อนข้างสูงในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แต่ความผันผวนของทองคำยังอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าโดยเปรียบเทียบสินค้าโภคภัณฑ์ตัวอื่น รวมถึงสินทรัพย์ลงทุนอื่น ๆ เช่นตลาดหุ้น

3. ทองคำจัดเป็นสินทรัพย์ที่ช่วยกระจายความเสี่ยงที่ดี โดยหากดูจากความสัมพันธ์ของราคาทองคำเปรียบเทียบกับสินทรัพย์อื่นๆ จะเห็นว่าบ่อยครั้งราคามีทิศทางที่สวนทางกัน เช่นราคาหุ้นกับราคาทองคำในปี 2008 ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น

4. ทองคำบนโลกมีจำกัด โดย 10 ปีที่ผ่านมาปริมาณทองคำที่เหมืองทองขุดหาได้ทยอยปรับลดลงเรื่อย ๆ รวมถึงจำนวนแหล่งสายแร่ทองคำที่ค้นพบใหม่ก็ทยอยปรับลดลงจากปีละ 5 – 6 เหมือง มาเป็นปีละ 1 – 2 เหมืองในปัจจุบัน

5. เมื่อมาดูกันที่ตลาดของนักลงทุนสถาบัน เช่น กองทุนรวม, กองทุนบำนาญ, บริษัทประกัน ซึ่งมีขนาดประมาณ 120 – 140 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปี 2008 ปัจจุบันเป็นการลงทุนในทองคำเพียง 0.58% หรือ 7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น ซึ่งผมเชื่อว่าจากข้อดีของทองคำที่มีในหลายแง่มุม 4 ข้อข้างต้น จะทำให้สัดส่วนการลงทุนในทองของสถาบันน่าจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญใน อนาคตข้างหน้า

ลองยกตัวอย่างง่าย ๆ ครับ ถ้า นักลงทุนสถาบันปรับเพิ่มการลงทุนในทองซัก 3 % จากเม็ดเงิน 120 – 140 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เท่ากับเป็นการลงทุนในทองคำเพิ่มขึ้นมูลค่าประมาณ 4 ล้านล้านเหรียญ ซึ่งเท่ากับปริมาณทองที่มีอยู่บนโลกทั้งหมดในปัจจุบันพอดี ซึ่งผมเชื่อว่าความต้องการของนักลงทุนจะทยอยปรับเพิ่มขึ้นในอนาคตครับ ดูอย่างกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของบริษัทที่ผมทำงานอยู่ สามารถเลือกแบ่งบางส่วนไปลงทุนในกองทุนทองคำได้ มีพนักงานหลายคนครับที่ตัดสินใจแบ่งเงินไปลงกองทุนทองคำถึง 20 – 50% (รวมทั้งตัวผมเองด้วย)

ช่องทางในการซื้อทองเพื่อลงทุน

1. ซื้อทองคำแท่ง (96.5%) – ขอแนะนำ “ฮั่ว เซ่ง เฮง” http://www.huasengheng.com/

2. ซื้อทองคำแท่ง (99.99%) – มีขายอยู่หลายเจ้าในเมืองไทยครับ ขอแนะนำ “Ausiris” http://www.ausiris.co.th/th/

3. ซื้อกองทุนทองคำ – มีหลายบลจ. เสนอขายครับ โดยส่วนใหญ่จะนำไปลงในกองทุน ETF ที่เสนอขายในต่างประเทศ ขอแนะนำ “AYF Gold Fund” http://www.ayfunds.com/th/
โทร 02 – 657 – 5757

4. ซื้อ Gold Future – อันนี้ต้องศึกษาหาความรู้ก่อนลงทุนเยอะหน่อยครับ ขอแนะนำให้ศึกษาใน Thai Futures Exchnage http://www.tfex.co.th/th/products/goldfutures.html

SPDR-Gold-Custodian

สุด ท้ายขอฝากกันด้วยรูปของ Safe House ของธนาคาร HSBC ในประเทศอังกฤษ ที่ใช้สำหรับเก็บทองคำแท่งของกองทุน ETF ที่ใหญ่ที่สุดในโลก SPDR Gold Shares โดย State Street Advisors ครับ

โดย เจษฎา สุขทิศ,CFA.
ผู้จัดการกองทุน, บลจ.อยุธยา จำกัด.

Facebook Comments

แชร์บทความนี้
เจษฎา สุขทิศ, CFA ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร FINNOMENA & นายกสมาคมฟินเทคประเทศไทย คุณเจษฎา เคยปฏิบัติงานในตำแหน่ง ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บลจ.ซีไอเอ็มบี-พรินซิเพิล และเคยร่วมงานเป็นผู้จัดการกองทุนกับกลุ่ม เจพี มอร์แกน, ไทยพาณิชย์ และยูโอบี นอกจากนี้ ในปัจจุบัน คุณเจษฎา รับหน้าที่เป็นวิทยากรด้านการเงิน และฟินเทค ให้กับภาครัฐ ภาคเอกชน และหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ คุณเจษฎา เคยได้รับรางวัลนักเศรษฐศาสตร์ดาวรุ่งจากสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์, รางวัล Most Astute Investor จากนิตยสาร The Asset และรางวัล Morningstar Fund Award
Posts created 106

Related Posts

Begin typing your search term above and press enter to search. Press ESC to cancel.

Back To Top