แพ็คคู่กองทุน LTF/RMF ผลงานระดับ TOP ของเมืองไทย โดยผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
ขึ้นชื่อว่ากองทุนลดหย่อนภาษีอย่าง LTF / RMF จัดเป็นการลงทุนที่เหมาะกับผู้มีเงินได้ทุกคนเป็นลำดับแรก เนื่องจากสิทธิพิเศษในการลดหย่อนภาษีที่ทำให้นักลงทุนเสมือนได้กำไรอัตโนมัติตั้งแต่ปีแรกที่ลงทุนจากภาษีที่ประหยัดได้ วันนี้ FundTalk ขอแนะนำแพ็คคู่กองทุน LTF / RMF ที่น่าสนใจลงทุนในปีนี้จากค่าย PRINCIPAL ซึ่งได้แก่กองทุน PRINCIPAL LTF และกองทุน PRINCIPAL iPROPRMF กันครับ
ทำไมต้อง PRINCIPAL
ขอออกตัวก่อนเลยว่าผู้เขียนเคยร่วมงานกับกลุ่ม PRINCIPAL มาก่อน จึงมีความคุ้นเคยกับสถาบันการเงินแห่งนี้เป็นอย่างดี Principal Financial Group เป็นกลุ่มการเงินยักษ์ใหญ่จากสหรัฐอเมริกา จัดอยู่ในกลุ่มบริษัท Fortune 500 และจดทะเบียนอยู่ในตลาดหลักทรัพย์อเมริกา ปัจจุบันดูแลบริหารเงินลงทุนอยู่กว่า 6.9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ (ข้อมูล ณ 30 มิ.ย. 62)
ประสบการณ์กว่าร้อยปีของกลุ่ม PRINCIPAL มีจุดแข็งหลักอยู่ที่การบริหารเงินกองทุนบำนาญและเพื่อการเกษียณ (Pension Fund and Retirement Services) ของคนอเมริกันนับล้าน เพื่อให้เงินลงทุนเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ตอบโจทย์เป้าหมายการเกษียณ ซึ่งกุญแจความสำเร็จที่สำคัญอยู่ที่การบริหารความเสี่ยง และกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม
สไตล์การลงทุนของ PRINCIPAL จะเน้นที่การทำ Bottom-up คือการเลือกหลักทรัพย์รายตัว โดยในการเลือกหลักทรัพย์เข้าพอร์ตแต่ละตัวนั้นจะเน้นการมีผู้จัดการกองทุนที่เป็นคนท้องถิ่นทำการพบปะเยี่ยมชมกิจการ จากนั้นนำข้อมูลที่ได้ไปวิเคราะห์ร่วมกับทีมงานระดับภูมิภาค เพื่อคัดสรรหลักทรัพย์เข้ามาในพอร์ตการลงทุน ซึ่งทีมผู้จัดการกองทุนของไทยนั้นนำทีมโดยคุณวิน พรหมแพทย์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนมือฉมังผู้พิสูจน์ผลงานการบริหารกองทุนในบ้านเราตลอดหลายปีที่ผ่านมา
PRINCIPAL iPROPRMF (กองทุนเปิดพรินซิเพิล พร็อพเพอร์ตี้ อินคัมเพื่อการเลี้ยงชีพ)
(กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก)
PRINCIPAL iPROPRMF คือกองทุน RMF ที่มีผลตอบแทนรวมย้อนหลัง 5 ปีสูงสุดเป็นอันดับ 1 เมื่อเทียบกับกองทุน RMF ทุกชนิด และทุกกองทุนในประเทศไทย ซึ่งแน่นอนว่าย่อมต้องได้รับการจัดอันดับ 5 ดาวจาก Morningstar อีกด้วย
ด้วยผลตอบแทนเฉลีย 5 ปีย้อนหลัง 14.52% ต่อปี นอกจากนี้กองทุนยังมี Sharpe Ratio หรืออัตราผลตอบแทนเปรียบเทียบความเสี่ยงในระดับ “ดีที่สุด” ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมาอีกด้วย
รูปที่ 1 ผลการดำเนินงาน และ Sharpe Ratio ย้อนหลังของกองทุน PRINCIPAL iPROPRMF | ที่มา FINNOMENA, Morningstar
กองทุน PRINCIPAL iPROPRMF เน้นลงทุนในทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาฯ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย และสิงค์โปร์ ซึ่งคาดหวังรายได้ค่าเช่า 4-6% ต่อปี เหมาะกับภาวะดอกเบี้ยขาลงที่เป็นอยู่ในปัจจุบันซึ่งจะทำให้อัตราเงินปันผล 4-6% ดูน่าสนใจมากขึ้น
ทั้งนี้ PRINCIPAL iPROPRMF เน้นการลงทุนในอสังหาฯ กลุ่มพื้นที่เช่าออฟฟิศ, Data Center และ Logistics ที่กำลังเติบโตตามเมกะเทรนด์เรื่อง Digital และ e-Commerce ที่ทุกวันการทำงานบนคลาวด์แทบจะเป็นการเก็บพื้นที่ทุกอย่างของผู้ใช้งานอินเตอร์เนทแทนฮารดดิสก์ไปแล้ว ขณะที่ปริมาณการซื้อของออนไลน์ก็ยังเติบโตอย่างต่อเนื่อง
PRINCIPAL LTF (กองทุนเปิดพรินซิเพิล หุ้นระยะยาว)
PRINCIPAL LTF ซึ่งเป็นกองทุน LTF เรือธงของค่าย PRINCIPAL ได้พิสูจน์ผลงานด้วยผลตอบแทนระยะยาวระดับ TOP 5 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา โดย ณ วันที่ 23 ก.ย. 62 มีผลตอบแทนเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 4.25% มากกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 2.40% นอกจากนี้ยังมีระดับ Sharpe Ratio ย้อนหลัง 5 ปีในระดับที่ดีอีกด้วย
( หมายเหตุ: ผลตอบแทนดีที่สุด = กลุ่ม Top 5% | ผลตอบแทนดีมาก = กลุ่ม Top 25% | ผลตอบแทนดี = ดีกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรม )
รูปที่ 2 ผลการดำเนินงาน และ Sharpe Ratio ย้อนหลังของกองทุน PRINCIPAL LTF | ที่มา FINNOMENA, Morningstar
สำหรับกลยุทธ์การลงทุนล่าสุด กองทุน PRINCIPAL LTF ให้น้ำหนักเน้นหุ้นเชิงรับ (Defensive) ที่เน้นกลุ่มที่พึ่งพาการบริโภคภายในประเทศ เช่น ค้าปลีก โรงพยาบาล และโครงสร้างพื้นฐาน และเลี่ยงหุ้นกลุ่มวัฏจักรที่มีรายได้ผันผวนตามภาวะเศรษฐกิจ
กลยุทธ์ข้างต้น ผู้เขียนมองว่าเหมาะสมมากกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในภาวะปลายวัฏจักรของเศรษฐกิจและตลาดหุ้น และปัญหาสงครามการค้าที่รุมเร้าต่อเนื่อง บริษัทในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ หรือกลุ่มค้าปลีกที่เน้นสินค้าจำเป็นจะสามารถรักษารายได้ที่ยั่งยืนกว่า และสามารถฝ่าคลื่นความผันผวนได้เป็นอย่างดี
ทั้งหมดก็เป็น 2 กองทุน LTF และ RMF ระดับตัวท็อปจากค่าย PRINCIPAL ที่ FundTalk ขอแนะนำสำหรับฤดูกาลซ้อปปิ้งกองทุนประหยัดภาษีในปีนี้ กองหนึ่งเป็นหุ้นไทย คู่ไปกับอีกกองหนึ่งที่เน้นรายได้ค่าเช่าจากอสังหาฯ ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์ลงทุนในปัจจุบัน และตอบโจทย์การลงทุนระยะยาวได้เป็นอย่างดี ท่านนักลงทุนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.principal.th โทร 0-2686-9595 สำหรับวันนี้ สวัสดีครับ
FundTalk รายงาน
คำเตือน
- ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า(กองทุน) เงื่อนไข ผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน/ผู้ลงทุนต้องศึกษาข้อมูลของกองทุนรวม โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการลงทุน ความเสี่ยง และผลการดำเนินงาน ของกองทุนรวมที่เปิดเผยไว้ในแหล่งต่างๆ หรือให้ขอข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ ก่อนการตัดสินใจลงทุน
- ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ระบุไว้ในคู่มือการลงทุนในกองทุนรวมดังกล่าวด้วย หากไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขการลงทุนผู้ลงทุนจะไม่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี
จะต้องคืนสิทธิประโยชน์ทางภาษี (การลงทุนตั้งแต่ปี 2559 ผู้ลงทุนจะต้องลงทุนใน LTF อย่างน้อย 7 ปีปฏิทิน) - บริษัทจัดการใช้สัญญาซื้อขายล่วงหน้าเพื่อเป็นเครื่องมือในการป้องกันความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยนของกองทุน (Hedging) ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
- กองทุนมีนโยบายลงทุนในต่างประเทศ กองทุนอาจมีความเสี่ยงด้านอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้รับกำไร จากอัตราแลกเปลี่ยน/หรือได้รับเงินคืนต่ำกว่าทุนเริ่มแรกได้
- PRINCIPAL iPROPRMF กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ (Property Sector Fund) ดังนั้นหากมีปัจจัยลบที่ส่งผลกระทบต่อการลงทุนดังกล่าว ผู้ลงทุนอาจสูญเสียเงินลงทุนจำนวนมาก
- ผลตอบแทนในอดีตมิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต
- การลงทุนในหน่วยลงทุน มิใช่การฝากเงิน และมีความเสี่ยงของการลงทุน ผู้ลงทุนอาจได้รับเงินลงทุนคืนมากกว่าหรือน้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกก็ได้ ดังนั้น ผู้ลงทุนควรลงทุนในกองทุนนี้ เมื่อเห็นว่าการลงทุนในกองทุนรวมนี้ เหมาะสมกับวัตถุประสงค์การลงทุนของผู้ลงทุน และผู้ลงทุนยอมรับความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการลงทุนได้